เคยรู้สึกไหม? ผิวเริ่มแห้งไว ผมร่วงง่าย เล็บเปราะ หรือแม้แต่ปวดเข่าเวลาลุกนั่ง ทั้งที่คุณยังไม่ได้ “แก่” เลยสักนิด…
ปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่คือสัญญาณเตือนว่า คอลลาเจนในร่างกายคุณเริ่มลดลงแล้ว และไม่ใช่แค่เรื่องผิว แต่รวมถึงผม เล็บ กระดูก และข้อที่คุณอาจกำลังมองข้าม นั่นจึงเป็นเหตุผลที่หลายคนเริ่มถามตัวเองว่า… “คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี ที่ตอบได้ทุกปัญหาในซองเดียว?”
เพราะคอลลาเจนทั่วไปบางสูตรเน้นแค่ผิว บางสูตรดูแลข้อ แต่มีไม่กี่แบรนด์ที่ “เข้าใจ” ว่าร่างกายต้องการการดูแลทั้งระบบ บทความนี้รวบรวม 10 คอลลาเจนที่ดีที่สุด ปี 2025 ที่ทั้งผู้เชี่ยวชาญและผู้ใช้จริงแนะนำ คัดมาแล้วว่า “ครบ” ทั้งผิว ผม เล็บ กระดูก และข้อเข่า พร้อมเคล็ดลับเลือกแบบไม่หลงโฆษณา เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นใน 5 นาที

ทำไมแค่ “ผิวดี” ไม่พอ?
เพราะคอลลาเจนดูแลได้มากกว่าที่คุณคิด
เวลาพูดถึงคอลลาเจน คนส่วนใหญ่มักนึกถึงแค่ผิวสวยใส เต่งตึง หรือช่วยลดริ้วรอย แต่ความจริงแล้ว คอลลาเจนเป็นโปรตีนโครงสร้างหลักของร่างกาย ที่พบได้ในผิวหนัง เส้นผม เล็บ เอ็น ข้อต่อ และกระดูก
เมื่อร่างกายผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง (หลังอายุ 25 ปีขึ้นไป) ไม่ใช่แค่ผิวจะโทรม แต่ยังเกิดอาการอย่างเช่น:
- ผมร่วงง่าย
- เล็บฉีกเปราะ
- ปวดข้อเวลาลุกนั่ง
- เข่ามีเสียงดังเวลาเดิน
- กระดูกเปราะหรือบางลงโดยไม่รู้ตัว
จึงไม่แปลกที่หลายคนเริ่มหันมาสนใจคำถามว่า
“คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี ที่ไม่ได้ดูแลแค่ผิว… แต่ดูแลลึกถึงข้อและกระดูกด้วย?”
และคำตอบคือ — ต้องเป็นคอลลาเจนที่ มีมากกว่าชนิดเดียว เช่น
- Type I & III สำหรับผิว ผม เล็บ
- Type II หรือ UC-II® สำหรับกระดูกอ่อนและข้อ
- Dipeptide หรือ Hydrolyzed Collagen ที่โมเลกุลเล็ก ดูดซึมง่าย เห็นผลไว
ที่สำคัญ คอลลาเจนที่ดีที่สุดต้องมี สารเสริมการดูดซึม เช่น วิตามินซี, โคเอนไซม์ Q10, แคลเซียมจากธรรมชาติ และสารต้านอนุมูลอิสระ เพราะไม่ใช่แค่ “ใส่เยอะ” แล้วดี แต่ต้อง “ออกแบบให้ทำงานร่วมกัน” ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
ดื่มลงท้อง อย่าเห็นแก่ของ “ราคาถูก”
หากคุณเคยลองคอลลาเจนแต่ไม่เห็นผล อาจไม่ใช่เพราะคอลลาเจนไม่ดี แต่อาจเป็นเพราะ คุณเลือกผิดสูตร หรือได้แค่คอลลาเจนที่ดูแลเพียงผิว แต่ไม่ครอบคลุมถึงระบบโครงสร้างภายใน บทความนี้จะช่วยให้คุณตอบคำถามว่า “คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี 2025” ได้ชัดเจนที่สุด โดยไม่ต้องลองผิดลองถูกอีกต่อไป

วิธีเลือกคอลลาเจนที่ดีที่สุดให้เหมาะกับตัวคุณ
เมื่อรู้แล้วว่าคอลลาเจนไม่ได้ช่วยแค่เรื่องผิว แต่ยังจำเป็นต่อโครงสร้างร่างกายโดยรวม คำถามที่ตามมาคือ…
แล้วแบบไหนล่ะคือ “คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี” ที่ตอบโจทย์ของคุณจริง ๆ?
เพราะไม่ใช่ทุกคนจะเหมือนกัน — บางคนต้องการผิวใส บางคนมีปัญหาข้อเข่าเสื่อม บางคนอยากได้ครบจบในตัวเดียว นี่คือหลักง่าย ๆ ในการเลือกคอลลาเจนให้เหมาะกับตัวคุณ
1. เลือกตาม “เป้าหมายสุขภาพ” ของคุณ
เป้าหมาย | คอลลาเจนที่เหมาะสม | ควรมีสารเสริมอะไร |
---|---|---|
ผิวใส ริ้วรอยลดลง | Type I หรือ Dipeptide | Vitamin C, Q10, Zinc |
เล็บเปราะ ผมร่วง | Type I + Biotin | Collagen Peptide + Zinc |
ปวดข้อ ข้อเสียงดัง | Type II หรือ UC-II® | แคลเซียม, สารต้านการอักเสบ |
ดูแลครบ ผิว + ข้อ | Hybrid (Dipeptide + Type II) | วิตามิน C, Q10, Grape Seed |
2. ดูชนิดของคอลลาเจนให้เหมาะ
- Type I / III → ผิว ผม เล็บ
- Type II หรือ UC-II® → ข้อต่อ กระดูกอ่อน
- Dipeptide / Hydrolyzed Collagen → โมเลกุลเล็ก ดูดซึมดี เห็นผลไว
หลายคนทานคอลลาเจนแต่ไม่เห็นผล เพราะเลือกชนิดที่ไม่ตรงกับปัญหา เช่น ปวดข้อแต่เลือก Type I ที่เน้นผิว
3. อย่ามองข้าม “สารเสริมดูดซึม”
คอลลาเจนจะทำงานได้ดีขึ้นเมื่อมีสารเสริมที่ช่วยดูดซึมและเสริมฤทธิ์ เช่น:
- Vitamin C → จำเป็นต่อการสังเคราะห์คอลลาเจน
- Coenzyme Q10 → เสริมพลังงานระดับเซลล์ ต้านอนุมูลอิสระ
- แคลเซียม + Zinc → เสริมกระดูกและข้อให้แข็งแรง
- Grape Seed / Pine Bark → ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ดูอ่อนเยาว์
4. สูตรที่ “ปลอดภัย และทานต่อเนื่องได้”
เพราะคอลลาเจนคืออาหารเสริมที่ควรทานต่อเนื่อง จึงควรหลีกเลี่ยง:
- น้ำตาล, แป้งแฝง
- สี กลิ่น รส สังเคราะห์
- สารกันเสีย หรือฟิลเลอร์ที่ไม่จำเป็น
การเลือก “คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี” จึงไม่ใช่แค่เรื่องราคา หรือแพ็กเกจน่ารัก แต่คือการเลือกที่ “คิดถึงร่างกายตัวเองเป็นหลัก” หากคุณเลือกถูกตั้งแต่แรก ก็ไม่ต้องลองผิดลองถูกหลายยี่ห้อให้เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์

รีวิว 10 คอลลาเจนยี่ห้อดัง 2025 ตัวไหนดี ตัวไหนครบ? มาดูกัน
ในยุคที่มีคอลลาเจนวางขายมากมาย ทั้งแบบเม็ด ผง เจลลี่ หรือกัมมี่ — คุณเคยรู้สึกไหมว่า… “คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี ที่กินแล้วเห็นผลจริง ไม่ใช่แค่ผิวใสแต่ข้อยังเจ็บเหมือนเดิม?”
เราได้รวบรวม 10 คอลลาเจนตัวท็อปของปี 2025 ที่ได้รับความนิยมสูง และมีสูตรที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน เพื่อให้คุณสามารถเลือกได้ตรงกับความต้องการและสไตล์การดูแลสุขภาพของตัวเอง

1.โมเน่คอลลาเจน (Mo'ne collagen)
โมเน่คอลลาเจน พลัส ถือเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่มคอลลาเจนสาย “ครบสูตร” ที่สามารถดูแลได้ทั้งผิวพรรณ เส้นผม เล็บ ข้อต่อ และกระดูกในหนึ่งเดียว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการทานอาหารเสริมให้น้อยชิ้น แต่ครอบคลุมทุกปัญหา ดื่มง่าย ไม่คาว เหมือนกินน้ำเปล่า ไม่มีสี ไม่มีแป้ง และ ไม่มีน้ำตาล100% สายสุขภาพ ลดน้ำหนัก ทำ IF ทานได้ปกติ
สิ่งที่ทำให้สูตรนี้โดดเด่นคือการใช้คอลลาเจน 2 ชนิดในสูตรเดียว ได้แก่ “คอลลาเจนไดเปปไทด์” ซึ่งมีโมเลกุลขนาดเล็ก ดูดซึมได้เร็วกว่าคอลลาเจนทั่วไป และ “คอลลาเจนไทป์ 2” ที่เน้นเรื่องข้อเข่าและกระดูกอ่อนโดยเฉพาะ เสริมด้วยแคลเซียมจากสาหร่ายทะเลธรรมชาติ ที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของมวลกระดูกอย่างปลอดภัย
จุดเด่นของ โมเน่คอลลาเจนพลัส
- คอลลาเจนไดเปปไทด์ (Dipeptide Collagen) เป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการย่อยจนเหลือโมเลกุลเล็กระดับ 300 ดาลตัน ดูดซึมได้เร็วและตรงเป้ากว่าแบบไฮโดรไลซ์ และสามารถดูดซึมเข้าสู่ผิว หนังศีรษะ และเล็บได้ไว เห็นผลเร็วใน 3–4 สัปดาห์
- คอลลาเจนไทป์ 2 (Type II Collagen) เป็นคอลลาเจนเฉพาะทางที่อยู่ในกระดูกอ่อน ช่วยซ่อมแซมข้อเสื่อม เสริมความยืดหยุ่นของข้อ เหมาะกับผู้ที่มีเสียงลั่น ปวดเข่า หรือเคลื่อนไหวติดขัด
- เสริมแคลเซียมจากสาหร่ายทะเลธรรมชาติ แคลเซียมในรูปแบบธรรมชาติ ดูดซึมง่าย ไม่ตกค้าง ไม่ทำให้ท้องผูก ช่วยเสริมโครงสร้างกระดูกให้แน่นแข็ง พร้อมลดความเสี่ยงกระดูกพรุน
สูตรนี้เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีปัญหาหลายด้าน ทั้งผิวพรรณ ผิวแห้ง ฝ้า กระ จุดด่าดำ ชะลอวัย ข้อลั่น ปวดเข่า และบำรุงผม และเล็บ ในเวลาเดียวกัน
- ผู้ที่เริ่มเข้าสู่วัย 25 ปีขึ้นไป ที่ร่างกายเริ่มผลิตคอลลาเจนน้อยลงอย่างรวดเร็ว
- คนทำงานหนัก พักผ่อนน้อย นั่งนาน ปวดหลัง ปวด คอ บ่า ไหล่ และต้องการฟื้นฟูผิวและร่างกายแบบเร่งด่วน
- ผู้ที่ไม่อยากซื้ออาหารเสริมหลายตัว แต่ต้องการผลลัพธ์รอบด้าน
ส่วนผสมหลัก
- คอลลาเจนไดเปปไทด์ (ดูดซึมเร็ว บำรุงผิว ผม เล็บ)
- คอลลาเจนไทป์ 2 (เสริมความแข็งแรงของข้อเข่าและกระดูกอ่อน)
- แคลเซียมจากสาหร่ายทะเล (ช่วยลดความเสี่ยงกระดูกพรุน)
- วิตามินซี 100% (ช่วยให้คอลลาเจนดูดซึมได้ดีขึ้น)
- Coenzyme Q10 (เพิ่มพลังงานระดับเซลล์ ต้านริ้วรอย)
- สารสกัดจากเมล็ดองุ่น, เมล็ดทับทิม (ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย)
- ซิงค์, เปลือกสน, เมลอน, เซราไมด์จากข้าว, อะเซโรล่าเชอร์รี่
คำแนะนำในการทาน
- รับประทานวันละ 1 ช้อนตวง (5,000 มก.) ตอนเช้าหรือก่อนนอน ขณะท้องว่าง เพื่อการดูดซึมสูงสุด
- ชงละลายในน้ำเปล่าอุณหภูมิห้อง ไม่ควรชงกับน้ำร้อน
- เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน ควรทานต่อเนื่อง 2–6 สัปดาห์ขึ้นไป
ข้อควรระวัง
- ผู้ที่แพ้อาหารทะเลควรอ่านฉลากอย่างละเอียด (เพราะใช้คอลลาเจนจากปลาทะเล)
- หากอยู่ระหว่างตั้งครรภ์หรือมีโรคไตควรปรึกษาแพทย์ก่อนทาน
- ควรเก็บในที่แห้ง หลีกเลี่ยงความชื้นและแสงแดด
2. Vital Proteins Collagen Peptides
Vital Proteins เป็นคอลลาเจนเปปไทด์จากอเมริกาที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกในหมู่คนรักสุขภาพ ด้วยมาตรฐานการผลิตระดับสูงจากวัวเลี้ยงด้วยหญ้าแบบปลอดสาร (Grass-Fed, Pasture-Raised) ทำให้ได้คอลลาเจนบริสุทธิ์ในรูปแบบ Hydrolyzed Peptides ที่ย่อยง่าย ดูดซึมเร็ว ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เหมาะกับคนที่มองหาคอลลาเจนสายคลีน ปลอดภัย และอิงธรรมชาติอย่างแท้จริง
จุดเด่นของ Vital Proteins Collagen Peptides
สูตรนี้ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่แต่งรส ไม่มีน้ำตาล เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่เน้นการควบคุมอาหาร ทำ IF หรือมีไลฟ์สไตล์เฮลตี้สูง นอกจากนี้ยังผสาน Hyaluronic Acid ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และ Vitamin C ซึ่งจำเป็นต่อการดูดซึมคอลลาเจนและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย
สูตรนี้เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ต้องการเสริมผิว ผม เล็บ และข้อเข่าในสูตรเดียวแบบปลอดภัย
- ผู้ที่มีแนวทางการกินคลีน ไม่แต่งกลิ่น ไม่ใส่น้ำตาล ไม่กินของแปรรูป
- ผู้ที่ต้องการผสมคอลลาเจนในเมนูเครื่องดื่มหรืออาหารต่าง ๆ
ส่วนผสมหลัก
- Hydrolyzed Collagen Peptides (จากวัวเลี้ยงด้วยหญ้า)
- Hyaluronic Acid
- Vitamin C
คำแนะนำในการทาน
- ใช้วันละ 1–2 ช้อนตวง ผสมในเครื่องดื่มร้อนหรือเย็น เช่น กาแฟ ชา หรือน้ำเปล่า ดื่มขณะท้องว่าง หรือหลังออกกำลังกาย เพื่อให้ดูดซึมได้ดีที่สุด
ข้อควรระวัง
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้โปรตีนจากวัว หรือผู้ที่มองหาคอลลาเจนจากปลาทะเล
3. ZEAVITA Activ70X Collagen
ZEAVITA Activ70X พัฒนาเพื่อแก้ปัญหาผิวพรรณแบบรอบด้าน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีสิว ผิวหมองคล้ำ หรือระบบย่อยอาหารไม่ดี โดยเน้นการเสริมภูมิคุ้มกันผิวจากภายในสู่ภายนอก ด้วย Collagen Dipeptide ที่ดูดซึมเร็ว พร้อม Glutathione, Zinc และ Prebiotic ที่ช่วยปรับสมดุลลำไส้และลดการอักเสบผิวอย่างชัดเจน
จุดเด่นของ ZEAVITA Activ70X Collagen
เหมาะกับกลุ่มที่มีปัญหาสิวฮอร์โมน หรือเคยลองอาหารเสริมผิวมาหลายตัวแล้วยังไม่เห็นผล เพราะสูตรนี้ทำงานร่วมกับระบบลำไส้ (Gut-Skin Axis) และต้านการเกิดสิวจากรากเหตุ เสริมให้ผิวแข็งแรงแบบยั่งยืน
สูตรนี้เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีสิวเรื้อรัง สิวฮอร์โมน ผิวมัน
- ผู้ที่ต้องการดูแลผิวพรรณพร้อมระบบขับถ่ายและลำไส้
- ผู้ที่พักผ่อนน้อย เครียดสะสม ผิวไวต่อสิ่งกระตุ้นภายนอก
ส่วนผสมหลัก
- Collagen Dipeptide
- L-Glutathione
- Zinc
- Prebiotic
- Vitamin C
คำแนะนำในการทาน
- วันละ 1 ซอง ผสมน้ำเย็น ดื่มตอนท้องว่างตอนเช้าหรือก่อนนอน เพื่อช่วยขับของเสียและฟื้นฟูผิว
ข้อควรระวัง
- ผู้ที่มีโรคกระเพาะ ลำไส้อ่อนแอ หรือใช้ยาลดอักเสบบ่อย ควรเริ่มทานน้อย ๆ และสังเกตผล
4. VISTRA Marine Collagen TriPeptide
VISTRA Marine Collagen TriPeptide ใช้คอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึกในรูปแบบ Tripeptide ซึ่งมีโมเลกุลเล็กกว่าไฮโดรไลซ์คอลลาเจนทั่วไป ทำให้ดูดซึมได้เร็วกว่าหลายเท่า และสามารถเข้าไปเติมเต็มเซลล์ผิวที่อ่อนแอได้ทันที เป็นตัวเลือกยอดนิยมของคนที่เริ่มมีปัญหาผิวและอยากฟื้นฟูแบบเร่งด่วน
จุดเด่นของ VISTRA Marine Collagen TriPeptide
เสริมด้วย Grape Seed Extract และวิตามินซี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ และทำให้ผิวใสขึ้นใน 2–4 สัปดาห์เมื่อทานต่อเนื่อง เหมาะกับผิวที่ผ่านแดดจัดหรือใช้เครื่องสำอางหนัก
สูตรนี้เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ผิวไม่กระจ่างใส
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์เร็วในการฟื้นฟูผิว
- ผู้ที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ หรือเริ่มเข้าสู่วัย 30+ ที่ผิวเริ่มเสื่อมสภาพ
ส่วนผสมหลัก
- Marine Collagen Tripeptide
- Grape Seed Extract
- Vitamin C
คำแนะนำในการทาน
- ผสมวันละ 1 ซอง ในน้ำเย็น ดื่มตอนเช้าหรือก่อนนอน เพื่อการดูดซึมคอลลาเจนที่ดีและตื่นมาผิวใส
ข้อควรระวัง
- อาจไม่เหมาะกับผู้ที่แพ้อาหารทะเล เพราะคอลลาเจนสกัดจากปลา
5. Life Extension ArthroMax Advanced with UC-II®
Life Extension ArthroMax คือหนึ่งในคอลลาเจนที่เน้นบำรุงข้อต่อโดยเฉพาะ ด้วยส่วนผสม UC-II® Collagen Type II แบบ Undenatured ซึ่งไม่ผ่านความร้อน ทำให้ยังคงโครงสร้างโปรตีนสมบูรณ์ ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันไม่ทำลายคอลลาเจนในข้อ ลดการเสื่อมของกระดูกอ่อน และเพิ่มการเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นภายใน 1 เดือน
จุดเด่นของ Life Extension ArthroMax Advanced with UC-II®
เสริมด้วย ApresFlex™ (Boswellia Serrata) ที่ต้านการอักเสบในข้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ MSM ที่ช่วยหล่อลื่นข้อ ลดการเสียดสีระหว่างกระดูก นอกจากนี้ยังมี Hyaluronic Acid ช่วยกักเก็บน้ำในข้อ ให้ความลื่นและยืดหยุ่นมากขึ้น
สูตรนี้เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีปัญหาปวดข้อ เข่าเสื่อม หรือเดินแล้วขัด
- ผู้สูงวัย หรือผู้ที่ออกกำลังกายหนักเป็นประจำ
- คนที่นั่งทำงานนาน ปวดหลัง ปวดคอ บ่า ไหล่ และต้องการฟื้นฟูโครงสร้างข้อ
ส่วนผสมหลัก
- UC-II® Collagen Type II (Undenatured)
- ApresFlex™ (Boswellia)
- MSM
- Hyaluronic Acid
คำแนะนำในการทาน
- ทานวันละ 1 เม็ด พร้อมมื้อเย็นหรือก่อนนอน ให้การซ่อมแซมเกิดขณะร่างกายพักผ่อน
ข้อควรระวัง
- ไม่เหมาะกับผู้แพ้โปรตีนจากไก่ และผู้ที่มีโรคภูมิคุ้มกันผิดปกติควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้งาน
6. California Gold Nutrition CollagenUP
CollagenUP จากแบรนด์ California Gold Nutrition เป็นสูตรคอลลาเจนแบบไฮบริดที่รวม 3 พลังเพื่อสุขภาพผิว ข้อต่อ และกระดูก ได้แก่ Hydrolyzed Marine Collagen, Hyaluronic Acid และ Vitamin C ในสูตรเดียว โดยคอลลาเจนมาจากปลาทะเลน้ำลึกบริสุทธิ์ ช่วยให้ดูดซึมได้เร็วและลดอาการแพ้ง่าย เหมาะกับคนที่ใส่ใจสุขภาพแบบองค์รวม
จุดเด่นของ California Gold Nutrition CollagenUP
สูตรนี้ไม่มีแป้ง น้ำตาล กลูเตน ถั่วเหลือง หรือผลิตภัณฑ์จากนม เหมาะกับสายคลีนและผู้ที่แพ้อาหารหลายชนิด นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดในการทานอาหาร เช่น กลุ่มมังสวิรัติที่รับประทานปลาได้ (Pescatarian)
สูตรนี้เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ต้องการดูแลผิว ผม เล็บ พร้อมข้อต่อและกระดูกในสูตรเดียว
- ผู้ที่แพ้อาหารกลุ่มใหญ่ เช่น นม ถั่ว แป้ง หรือกลูเตน
- ผู้ที่ต้องการสูตรคลีน ปลอด GMO และไม่มีส่วนผสมสังเคราะห์
ส่วนผสมหลัก
- Hydrolyzed Marine Collagen
- Hyaluronic Acid
- Vitamin C
คำแนะนำในการทาน
- ทานวันละ 1 ช้อนตวง (ประมาณ 5 กรัม) ผสมน้ำเปล่า ดื่มตอนท้องว่างเป็นประจำทุกวัน
ข้อควรระวัง
- ไม่เหมาะสำหรับผู้แพ้ปลาทะเล และไม่ควรผสมกับน้ำร้อนหรือเครื่องดื่มที่มีกรดสูงเกินไป
7. BLACKMORES Marine Collagen Absolute
BLACKMORES เป็นแบรนด์วิตามินจากออสเตรเลียที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 30 ปี สูตร Marine Collagen Absolute เน้นคอลลาเจนไตรเปปไทด์จากปลาทะเลน้ำลึก ร่วมกับวิตามิน C, E และ Zinc ที่ทำงานร่วมกันในการบำรุงผิวให้กระจ่างใส ชุ่มชื้น และดูอ่อนเยาว์ ลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จุดเด่นของ BLACKMORES Marine Collagen Absolute
เป็นสูตรสำเร็จรูปแบบชงดื่มที่มีรสอ่อน ๆ ไม่คาว ไม่ใส่น้ำตาล เหมาะกับผู้ที่ต้องการคอลลาเจนรสชาติดีในทุกวัน และเชื่อมั่นในคุณภาพของแบรนด์ที่มีการควบคุมคุณภาพในระดับสูง
สูตรนี้เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง หมองคล้ำ ริ้วรอย
- ผู้ที่มองหาคอลลาเจนจากปลาที่มีรสชาติดื่มง่าย
- ผู้ที่เชื่อมั่นในแบรนด์ที่มีมาตรฐานสากลสูง
ส่วนผสมหลัก
- Marine Collagen Tripeptide
- Vitamin C, Vitamin E
- Zinc
คำแนะนำในการทาน
- ผสมวันละ 1 ซอง ในน้ำเย็น ดื่มเป็นประจำทุกวันเพื่อฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดี
ข้อควรระวัง
- หากคุณแพ้อาหารทะเล หรืออยู่ระหว่างตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทาน
8. Vitamate Collagen Hydrolyzed with Vitamin C & Ornitine
Vitamate Collagen เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับผู้เริ่มต้นดูแลผิวและกระดูก ด้วยคอลลาเจนไฮโดรไลซ์จากปลา ผสานกับ Vitamin C และ L-Ornithine ซึ่งช่วยส่งเสริมการทำงานของ Growth Hormone ให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้ดีขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์เหนื่อยล้า พักผ่อนน้อย หรือเริ่มมีอาการข้อติด ปวดหลัง
จุดเด่นของ Vitamate Collagen Hydrolyzed with Vitamin C & Ornitine
เป็นคอลลาเจนที่มีความเข้มข้นพอดีในปริมาณที่ปลอดภัย เหมาะกับผู้เริ่มต้น และมีราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณภาพโดยรวม ดื่มง่าย และไม่มีส่วนผสมที่ระคายเคืองต่อกระเพาะ
สูตรนี้เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ต้องการเริ่มต้นดูแลผิว ผม เล็บ และข้อต่อ
- ผู้ที่พักผ่อนน้อย นอนดึก ทำงานหนัก
- ผู้ที่กำลังฟื้นตัวจากการออกกำลังกายหรืออาการปวดเมื่อย
ส่วนผสมหลัก
- Hydrolyzed Collagen (จากปลา)
- Vitamin C
- L-Ornithine
คำแนะนำในการทาน
- ทานวันละ 1 ซอง ผสมน้ำเปล่า ดื่มก่อนนอน หรือหลังออกกำลังกาย เพื่อให้การซ่อมแซมเกิดในช่วงที่ร่างกายพักฟื้น
ข้อควรระวัง
- ห้ามใช้ในเด็ก หรือผู้ที่มีโรคตับขั้นรุนแรง เพราะ L-Ornithine มีผลต่อกระบวนการในตับ
9. Shiseido The Collagen EXR
Vitamate Collagen เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับผู้เริ่มต้นดูแลผิวและกระดูก ด้วยคอลลาเจนไฮโดรไลซ์จากปลา ผสานกับ Vitamin C และ L-Ornithine ซึ่งช่วยส่งเสริมการทำงานของ Growth Hormone ให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้ดีขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์เหนื่อยล้า พักผ่อนน้อย หรือเริ่มมีอาการข้อติด ปวดหลัง
จุดเด่นของ Vitamate Collagen Hydrolyzed with Vitamin C & Ornitine
เป็นคอลลาเจนที่มีความเข้มข้นพอดีในปริมาณที่ปลอดภัย เหมาะกับผู้เริ่มต้น และมีราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณภาพโดยรวม ดื่มง่าย และไม่มีส่วนผสมที่ระคายเคืองต่อกระเพาะ
สูตรนี้เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ต้องการเริ่มต้นดูแลผิว ผม เล็บ และข้อต่อ
- ผู้ที่พักผ่อนน้อย นอนดึก ทำงานหนัก
- ผู้ที่กำลังฟื้นตัวจากการออกกำลังกายหรืออาการปวดเมื่อย
ส่วนผสมหลัก
- Hydrolyzed Collagen (จากปลา)
- Vitamin C
- L-Ornithine
คำแนะนำในการทาน
- ทานวันละ 1 ซอง ผสมน้ำเปล่า ดื่มก่อนนอน หรือหลังออกกำลังกาย เพื่อให้การซ่อมแซมเกิดในช่วงที่ร่างกายพักฟื้น
ข้อควรระวัง
- ห้ามใช้ในเด็ก หรือผู้ที่มีโรคตับขั้นรุนแรง เพราะ L-Ornithine มีผลต่อกระบวนการในตับ
10. NEOCell Super Collagen + C with Biotin
NEOCell เป็นหนึ่งในแบรนด์คอลลาเจนชื่อดังจากอเมริกาที่เน้นการดูแลทั้งผิว ผม และเล็บโดยเฉพาะ สูตร Super Collagen + C ผสาน Biotin และ Vitamin C ที่ช่วยเสริมการทำงานของคอลลาเจนในร่างกาย เพิ่มความแข็งแรงของเส้นผม และเล็บให้เงางาม ลดการขาดหลุดร่วงได้ดี
จุดเด่นของ NEOCell Super Collagen + C with Biotin
มีทั้งแบบเม็ดและแบบผงให้เลือกตามความสะดวก ใช้ Collagen Type I & III ที่มีบทบาทหลักในผิว เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อ พร้อมด้วย Bioactive Collagen Peptides ที่ผ่านการทดสอบทางคลินิกแล้วว่าช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดริ้วรอยได้จริง
สูตรนี้เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ผมร่วงง่าย เล็บเปราะ ผิวแห้ง
- ผู้ที่มีภาวะฮอร์โมนเปลี่ยน และผิวพรรณเริ่มเสื่อม
- ผู้ที่ต้องการคอลลาเจนแบบครอบคลุมทุกมิติ
ส่วนผสมหลัก
- Collagen Type I & III
- Vitamin C
- Biotin
คำแนะนำในการทาน
- ทานวันละ 6 เม็ด (แบ่งเช้า–เย็น) หรือวันละ 1 ช้อนตวงในน้ำเปล่า หากใช้แบบผง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดควรทานต่อเนื่อง
ข้อควรระวัง
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะไตอ่อนแอ หรือผู้ที่แพ้ Biotin ในปริมาณสูง

คอลลาเจนที่ดีที่สุดในปี 2025 ไม่ใช่แค่ขายดี — แต่ต้อง "เหมาะกับคุณ"
ทุกวันนี้ “คอลลาเจน” ไม่ใช่เทรนด์ แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพระยะยาว ไม่ใช่แค่ผิวสวย แต่หมายถึงข้อที่ดี กระดูกที่แข็งแรง ผมไม่ร่วง และเล็บที่ไม่เปราะเหมือนเดิม เพราะฉะนั้น คำถามว่า
“คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี” จึงไม่ใช่แค่เรื่องรีวิวหรือราคา
แต่คือการเลือกสิ่งที่ “ทำงานได้จริงกับร่างกายของคุณ” และ “เห็นผลได้จริงเมื่อใช้ต่อเนื่อง”
ลองคิดดู — คุณจะเลือกคอลลาเจนที่ใส่ส่วนผสมมาแบบมั่ว ๆ หรือเลือกสูตรที่มีการคิดมาแล้วว่า
- มีคอลลาเจนชนิดที่เหมาะกับผิว ข้อ หรือกระดูก
- เสริมด้วยสารดูดซึมจริง ไม่ใช่แค่แต่งรสให้รู้สึกดี
- และปลอดภัยพอจะกินได้ทุกวันโดยไม่ต้องกังวล
แม้ในตลาดจะมีหลายแบรนด์ให้เลือก แต่มีไม่กี่สูตรที่ “ออกแบบมาแบบเข้าใจโครงสร้างร่างกายจริง ๆ” และนั่นแหละ… คือสิ่งที่แยก คอลลาเจนที่เห็นผล ออกจากคอลลาเจนที่คุณต้องซื้อซ้ำโดยไม่แน่ใจว่ามันดีหรือไม่

คอลลาเจนในปี 2025 ไม่ได้มีแค่สูตรสวย ผิวใส แต่พัฒนาไปไกลถึงระดับที่ช่วยเสริมสุขภาพองค์รวม ทั้งเรื่องผม เล็บ ข้อต่อ กระดูก และการชะลอวัยอย่างรอบด้าน สิ่งสำคัญที่สุดคือ การเลือกให้ตรงกับปัญหาและร่างกายของคุณเอง ไม่ใช่แค่ตามเทรนด์หรือราคา
ก่อนซื้อคอลลาเจนยี่ห้อไหนก็ตาม ลองถามตัวเองว่า…
- คุณต้องการบำรุงเฉพาะผิว หรืออยากได้แบบครบสูตร?
- คุณมีปัญหากระดูก ข้อเข่า ผมร่วง หรือเล็บเปราะร่วมด้วยไหม?
- คุณแพ้อาหารบางชนิดหรือมีข้อจำกัดด้านสุขภาพอะไรบ้าง?
เมื่อคุณรู้คำตอบแล้ว การเลือก “คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี” จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะสิ่งที่ดีที่สุด คือ ตัวที่เหมาะกับคุณและทำให้คุณเห็นผลลัพธ์จริงได้อย่างต่อเนื่องในทุกวัน เพราะสุขภาพดี เริ่มต้นที่ความเข้าใจ และการเลือกให้ตรงจุดเท่านั้น